10 สิ่งที่น่าสนใจในหนังสือใหม่ของ เซอร์ อเล็กซ์

เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน กำลังจะออกหนังสืออัตชีวประวัติฉบับใหม่ในวันอังคารที่ 22 ตุลาคมนี้ โดยในคราวนี้อดีตกุนซือชาวสก็อตจะเปิดเผยเรื่องราวตลอด 15 ปีหลังในอาชีพของเขาด้วยตัวเอง
มันมีเหตุการณ์ที่น่าจดจำมากมายด้วยหลากหลายเหตุผล และนี่ก็คือ 10 หัวข้อที่น่าสนใจซึ่งสมควรอย่างยิ่งที่จะติดตามอ่านเมื่อหนังสือฉบับนี้วางจำหน่าย
1999
นี่คือสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้สร้างเอาไว้ในโลกฟุตบอล การคว้าแชมป์พรีเมียร์ ลีก และเอฟเอ คัพ หลังจากนั้นก็มาสร้างปาฏิหาริย์หลังครบ 90 นาทีในเวลาปกติที่คัมป์ นู หักอกบาเยิร์น มิวนิค คว้าถ้วยแชมเปี้ยนส์ ลีก ไปครองได้สำเร็จ และเซอร์ อเล็กซ์ เองก็ดูเหมือนจะปลาบปลื้มกับมันมากเป็นพิเศษ
เซอร์ อเล็กซ์ ได้บอกเอาไว้ว่า “ผมไม่อยากจะเชื่อเลย ไม่อยากเชื่อจริงๆ ฟุตบอลมันโคตรนรกชัดๆ!” (1999)
เดวิด เบ็คแฮม
ลูกล็อบข้ามหัวอันลือลั่นของมิดฟิลด์รายนี้ในปี 1996 ทำให้เขาโด่งดัง และก็กลายเป็นซูเปอร์สตาร์เต็มตัวหลังแต่งงานกับ พอช สไปซ์ (วิคตอเรีย อดัมส์) เซอร์ อเล็กซ์ หงุดหงิดกับเบ็คแฮมในเกมหนึ่ง และก็เตะรองเท้าสตั๊ดเข้าหน้าของเขาที่ห้องแต่งตัว ทำให้กองกลางรูปหล่อถึงกับต้องเย็บ จากนั้นเขาก็ถูกขายให้กับเรอัล มาดริด ในเวลาต่อมา
เซอร์ อเล็กซ์ ได้บอกเอาไว้ว่า “เขาเป็นนักเตะที่ฝึกซ้อมอย่างหนัก บางทีตอนกลางคืนเขายังไปซ้อมกับพวกนักเตะฝึกหัดด้วยซ้ำ และจากนั้นชีวิตของเขาก็เปลี่ยนไป เมื่อเขาแต่งงานกับสาวจากสไปซ์ เกิร์ลส นั่นทำให้เขาเสียสมาธิไปมาก” (2013)
การเสาะหาผู้สืบทอดตำแหน่ง
เดวิด มอยส์ ถูกประกาศให้เป็นผู้จัดการทีมคนใหม่แห่งโอลด์ แทรฟฟอร์ด ในเวลาไม่นานหลังจากเซอร์ อเล็กซ์ ประกาศรีไทร์ เป็นที่ทราบกันดีว่าเซอร์ อเล็กซ์ นั้นมีความสัมพันธ์กับทั้ง โชเซ่ มูรินโญ่ และ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ขณะที่บางแหล่งข่าวยังอ้างด้วยว่า คาร์โล อันเชล็อตติ ก็ถูกทาบทามด้วยเหมือนกัน เรื่องราวเบื้องหลังการเสาะหาผู้จัดการทีมคนใหม่นั้นเป็นอย่างไรกันแน่ และเขาใช้เวลานานขนาดไหนกว่าจะตัดสินใจในเรื่องนี้ได้?
เซอร์ อเล็กซ์ ได้บอกเอาไว้ว่า (พูดถึงกวาร์ดิโอล่า) “สถิติของเขานั้นน่าทึ่ง ถ้วยแชมป์ที่เขาทำได้กับบาร์เซโลน่าเป็นอะไรที่สุดยอด นั่นแหละคือเกียรติประวัติของเขา เขาคว้าแชมป์มาได้มากมาย” (2012)
รอย คีน
อีกหนึ่งนักเตะที่มีปัญหากับเขา คีนเป็นห้องเครื่องให้กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาตลอดหลายปี และหลังจากที่เขาแขวนสตั๊ดไปก็ดูเหมือนจะไปได้สวยกับอาชีพผู้จัดการทีม เมื่อพาซันเดอร์แลนด์ขึ้นมาเล่นในพรีเมียร์ ลีก แต่หลังจากนั้นผลงานก็ตกต่ำลงจนต้องหันหลังให้กับอาชีพนี้ในปัจจุบัน ส่วนสาเหตุที่ทำให้เขาต้องเดินออกจากถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด ตอนนั้นก็คือการให้สัมภาษณ์กับ MUTV ที่เถรตรงเกินไปนั่นเอง
เซอร์ อเล็กซ์ ได้บอกเอาไว้ว่า (หลังจากที่คีนออกมาวิจารณ์ทีมที่ตกรอบแชมเปี้ยนส์ ลีก) “รอยเองก็ได้โอกาสพิสูจน์ตัวเองกับอาชีพผู้จัดการทีมแล้ว และเขาก็คงรู้ว่ามันเป็นงานที่ยาก” (2011)
ตระกูลเกลเซอร์
นับตั้งแต่เข้ามาเทคโอเวอร์สโมสร ตระกูลเกลเซอร์ก็ไม่เคยถูกแฟนๆ ส่วนใหญ่ของสโมสรมองพวกเขาในแง่ดีเลย แต่ดูเหมือนว่าเซอร์ อเล็กซ์ จะไม่ได้ต่อต้านพวกเขาแต่อย่างใด ซ้ำยังมีความสุขในการทำงาน และพาทีมประสบความสำเร็จทั้งในด้านตลาดซื้อขายนักเตะ และผลงานในสนามอีกต่างหาก แต่เขาจะสนับสนุนเจ้าของทีมตระกูลนี้จากใจจริงหรือไม่หลังจากที่เลิกคุมทีมไปแล้ว หรือว่าเขาจะพ่นไดร์เป่าผมใส่เจ้าของทีมชาวอเมริกันแทนกันแน่?
เซอร์ อเล็กซ์ ได้บอกเอาไว้ว่า “ตลอดเวลาที่ผมอยู่กับพวกเขา ผมได้รับการสนับสนุนที่ดีมาโดยตลอด พวกเขาค่อนข้างหัวแข็ง แต่ก็สนับสนุนผมด้วยดี และนี่ก็คือสิ่งที่เกิดขึ้นกับสโมสร ดังนั้นผมจึงไม่ลังเลเลยที่จะสนับสนุนการทำงานของพวกเขาเช่นกัน” (2013)
เหตุการณ์ปาพิซซ่า, ซัวเรซ และคู่อริอื่นๆ
เหตุการณ์ปาพิซซ่าอันโด่งดังนั้นเกิดขึ้นหลังเกมที่อาร์เซนอลพบกับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ช่วงต้นยุค 2000 ขณะที่กรณีของหลุยส์ ซัวเรซ กับปาทริซ เอฟร่า ก็ตกเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในด้านการเหยียดผิว ตลอดช่วงที่เซอร์ อเล็กซ์ คุมทีม เขาก็มีคู่อริในวงการมากมายทั้งกับนักเตะ ทีม และผู้จัดการทีมคนอื่นๆ ตอนนี้เขาได้อำลาวงการไปแล้ว เขาจะมีมุมมองอย่างไรบ้างต่อคู่อริ ใครคือคนที่ทำให้เขาหนักใจที่สุด และใครกันที่เขาชื่นชอบที่จะเล่นสงครามจิตวิทยาด้วย?
เซอร์ อเล็กซ์ ได้บอกเอาไว้ว่า (พูดถึง ราฟาเอล เบนิเตซ) “ผมคิดว่าเขาเป็นคนขี้โมโหไปหน่อย เขาอาจจะถูกรบกวนจากอะไรบางอย่าง ผมคิดว่าคุณควรกำจัดปีศาจร้ายนี้ออกจากตัว หวังว่าเขาจะทำได้ และทำความเข้าใจว่าสิ่งที่เขาพูดมานั้นมันช่างน่าขันสิ้นดี” (2009)
คริสเตียโน่ โรนัลโด้
หนึ่งในสุดยอดนักเตะที่ช่วยให้ทีมประสบความสำเร็จ เซอร์ อเล็กซ์ เป็นคนปลุกปั้นเขามากับมือ เราจะได้รู้กันว่าเขามองโรนัลโด้อย่างไรในช่วงที่เห็นฟอร์มเป็นครั้งแรก และเบื้องหลังการย้ายออกจากทีมของโรนัลโด้ การย้ายไปเล่นกับเรอัล มาดริด ของเขานั้นเป็นที่เชื่อกันว่าเป็นความปรารถนาของเจ้าตัวที่มีมานาน หากว่าคุณเชื่อตามรายงานข่าว คราวนี้เซอร์ อเล็กซ์ จะบอกความจริงทุกอย่างด้วยตัวเอง
เซอร์ อเล็กซ์ ได้บอกเอาไว้ว่า (เกี่ยวกับข่าวลือจาก เรอัล มาดริด) “คุณคิดว่าผมจะไปพัวพันกับเรื่องนั้นหรือเปล่าล่ะ ให้ตายเถอะ ไม่มีทาง ผมจะไม่ขายนักเตะคนนี้ให้กับพวกเขาแน่” (2008)
ยาป สตัม
ปราการหลังร่างยักษ์ผู้นี้ยืนคุมแนวรับในถิ่นโอลด์ แทรฟฟอร์ด เป็นแกนหลักอยู่ในตอนนั้น แต่หลังจากที่เขาออกหนังสืออัตชีวประวัติออกมา และแฉวิธีการติดต่อซื้อตัวเขาจากผู้จัดการทีม เขาก็ถูกเฉดหัวออกไปทันที เซอร์ อเล็กซ์ ยอมรับในภายหลังว่าการขายสตัมออกไปนั้นถือเป็นความผิดพลาดครั้งหนึ่งของเขา และในหนังสืออัตชีวประวัติเล่มล่าสุดของเขาก็จะเปิดเผยทุกอย่างให้กระจ่างแจ้งยิ่งขึ้น
เซอร์ อเล็กซ์ ได้บอกเอาไว้ว่า “ผมได้ข้อเสนอมูลค่า 18.5 ล้านปอนด์มาจากลาซิโอ ใช่ 18.5 ล้านปอนด์หรือเปล่า? ไม่ๆ น่าจะ 16.5 ล้านปอนด์ และผมก็ปฏิเสธไม่ลงจริงๆ ก็เขาน่ะอายุตั้ง 30 ปีแล้ว ผมคิดว่าเรายังใช้งาน โรล็องต์ บล็องก์ ไปได้อีกปี หรือไม่ก็ดันนักเตะดาวรุ่งสักคนขึ้นมาอย่างเช่น เวส บราวน์ หรือ จอห์น โอเชีย แต่เอาเข้าจริงมันก็ไม่เป็นเหมือนกับที่ผมคิดเลย” (2010)
การตัดสินใจอยู่คุมทีมต่อ
เมื่อ 12 ปีที่แล้ว เซอร์ อเล็กซ์ เคยตัดสินใจว่าจะยุติการคุมทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปแล้วครั้งหนึ่ง แต่สุดท้ายแล้วเขาก็เลือกที่กลืนน้ำลายตัวเอง พร้อมกับคุมทีมต่อไปหลังจบฤดูกาลในปี 2002 จากนั้นก็พาทีมกวาดแชมป์อีกหลายรายการ สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นเพียงเกมจิตวิทยาของเซอร์ อเล็กซ์ หรือเปล่า? อะไรที่ทำให้เขาตัดสินใจในตอนแรกว่าจะวางมือ ก่อนที่จะตัดสินใจอยู่ต่ออีกนานกว่าทศวรรษ?
เซอร์ อเล็กซ์ ได้บอกเอาไว้ว่า “มันเป็นความคิดของเคธี่ (ภรรยาของเขา) หากว่าเธอ และเด็กๆ (ลูกชายของเขา มาร์ค, ดาร์เรน และเจสัน) ไม่ได้ให้การสนันสนุนผมอย่างเต็มที่ ผมเองก็คงจะไม่เปลี่ยนใจกลับมาคุมทีมต่อแล้ว”
คาร์ลอส เตเวซ
ดาวเตะชาวอาร์เจนไตน์ทำผลงานได้ดีตลอดช่วงเวลาของเขาที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด แต่เขาก็ย้ายเข้ามาค้าแข้งที่อังกฤษด้วยเงื่อนไขที่น่าสับสนเกี่ยวกับผู้ที่มีสิทธิ์ในตัวเขา ตอนนี้มีคำอธิบายหมดแล้วที่ว่าแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คว้าตัวเขามาได้อย่างไร และทำไมตัวนักเตะถึงไม่ต้องการอยู่กับทีมต่อ ซึ่งนั่นทำให้เกิดป้ายโฆษณาที่เขียนว่า Welcome to Manchester ตามมาในภายหลัง!
เซอร์ อเล็กซ์ ได้บอกเอาไว้ว่า (เกี่ยวกับป้ายโฆษณาดังกล่าว) “มันเป็นของพวกซิตี้ใช่ไหม? พวกเขาเป็นทีมเล็ก แถมยังด้อยสติปัญญาอีกด้วย สิ่งเดียวที่พวกเขาทำได้ก็คือการแดกดันแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พวกเขาทำได้แค่นี้แหละ” (2009)
SiR KeaNo

2001-2024 RED ARMY FANCLUB Official Manchester United Supporters Club of Thailand. #ThaiMUSC

Related Posts